ความเป็นมาของชนชาติไทย
ชนชาติไทย/ชนชาติไท(ไต)
ชนชาติไทย | ชนชาติไท(ไต) |
มีลักษณะร่วมกันคือ Ø ชาติพันธ์(มองโกลอยด์) Ø ตัวอักษร(อักษรไทย) Ø ภาษา(ภาษาไทย)เพี้ยนไปตามถิ่น Ø นิสัย ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี | Ø กลุ่มคนที่พูดภาษาตระกูลไท(ไต) Ø แตกแขนงไปหลายกลุ่มย่อย เช่น ไทลื้อ ไทอาข่า ไทม้ง ไทจ้วง Ø คนไทยถือว่าเป็นกลุ่มย่อยของคนไท Ø กระจายอยู่หลายประเทศ (จีน อินเดีย ลาว เวียดนาม พม่า มาเลเซีย ไทย) |
ไทย/สยาม
v ไทย หมายถึง กลุ่มชนที่มีเอกลักษณ์ร่วมกัน และคิดว่าตนเองเป็นคนไทยดังที่กล่าวไว้แล้ว
v สยาม หมายถึง ดินแดนทั้งหมดของประเทศไทยซึ่งคือประเทศไทยนั่นเอง
แนวคิดเกี่ยวกับที่มาของคนไทย
2. มณฑลเสฉวน(ตอนกลางของจีน) ตอนบนของไทย
3. ตอนใต้จีน/รัฐอัสสัม (ตอนใต้ของจีน)
4. อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ไม่ได้ไปไหนเลย
5. คาบสมุทรมลายู ตอนล่างของไทย
ทฤษฎีเทือกเขาอัลไต(ทางเหนือของจีน) | ||
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
ดร.วิลเลี่ยม คลิฟตัน ดอดด์ ผู้ริเร่ม เขียนหนังสือ:ชนชาติไทย:พี่ใหญ่ของชาวจีน | คนไทยเป็นชาวมองโกล ตั้งถิ่นฐานที่จีนก่อนชาวจีน อาณาจักรอ้ายลาว ภายหลังถูกจีนรุกรานจนถอยลงมา | การอพยพลำบากมาก ไกลมาก ไม่มีใครเชื่อแล้ว |
ขุนวิจิตรมาตรา หนังสือ:หลักไทย | อัลไต มาจากคำว่า แอ่งไทย ภายหลังถูกจีนรุกรานจนถอยลงมา | ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับคนไทยบริเวณนั้น แอ่งไทยมาจากการลากเสียงเท่านั้น |
มณฑลเสฉวน(ตอนกลางของจีน) | ||
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
แตแครียง เดอ ลากูแปครี ผู้ริเร่ม บทความ:ถิ่นเดิมของชนชาติฉาน | เอกสารจีน อาณาจักรต้ามุงปกครองโดยคนไทย ภายหลังถูกจีนรุกรานจนถอยลงมา | ไม่มีหลักฐานอื่นว่าไทยเคยปกครองต้ามุง ใช้เอกสารอย่างเดียวไม่ได้ |
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพ แสดงบรรยายพงศาวดารสยาม | เดิมไทยเป็นถิ่นของมอญ เขมร ชาวไทยเดิมอยู่เสฉวนแต่ถูกขับไล่ | ขาดหลักฐานทางโบราณคดีและมานุษยวิทยา |
หลวงวิจิตรวาทการ พระยาอนุมานราชธน งานค้นคว้าเรื่องเชื้อชาติไทย | ชาวไทยยิ่งใหญ่ทางตอนกลางของจีน เรียกว่า อ้ายลาว อพยพลงมาเรื่อยๆ | ขาดหลักฐานทางโบราณคดีและมานุษยวิทยา |
ตอนใต้จีน/รัฐอัสสัม (ตอนใต้ของจีน) | ||
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
อาร์คิบอล อาร์ คอลูน ผู้ริเร่ม | สำรวจตอนใต้จีน ตอนเหนืออินโดนีเซีย ตอนเหนือพม่าและรัฐอัสสัม พบว่ามีกลุ่มคนที่มีภาษา วัฒนธรรม ประเพณีเหมือนคนไทย (ประเทศไทย) | น่าเชื่อถือที่สุด มีหลักฐานมากและมีชาวไตอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว |
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
จอร์ช เซเดส์ (George Coedes) | เชื่อว่าเดิมคนไทยอยู่ที่มณฑลหหยูนหนานตั้งอาณาจักรน่านเจ้า ถูกจีนรุกรานจึงอพยพไปที่รัฐอัสสัม เชียงรุ้ง(จีน) เชียงแสน(ไทย) | ไม่มีการหักล้าง |
ซือ หม่า เซียน | กล่าวถึงชนเผ่าเทียนที่มีแว่นแคว้นใหญ่โต อ่อนน้อมต่อจีนจึงไม่ถูกรุกราน เรียกว่า เตียนเย่ว(ผู้ขี่ช้าง) | ไม่มีการหักล้าง |
ศจ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร | อ้างหลักฐานของนักภาษาศาสตร์ ดร.เก็ตนีย์ ว่ามณฑลกวางสีมีภาษาถิ่น “ภาษาไท”อยู่มาก แสดงว่าชนชาติไทยเคยตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ | ไม่มีการหักล้าง |
พระยาประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค) พงศาวดารโยนก | นำหลักฐานของชาวตะวันตกมาอ้างอิงเป็นครั้งแรก สรุปว่าถิ่นเดิมของคนไทยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน | ไม่มีการหักล้าง |
ทฤษฎีอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก | ||
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม ผู้ริเริ่ม | ใช้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา และโบราณคดี เสนอแนวคิดว่าคนไทยอยู่บริเวณประเทศไทยและคาบสมุทรอินโดนีเซียมานับพันปีแล้ว | ไม่มีหลักฐานใดยืนยัน |
ศจ.นายแพทย์สุด แสงวิเชียร เทียบโครงกระดูกยุคหินใหม่ที่พบที่กาญจนบุรี | มีสีของเม็ดเลือดแดงมากผิดปกติซึ่งเป็นโรคที่มีเฉพาะคนไทย ประเพณีถอนฟันหน้า ประเพณีฝนแต่งฟันหน้า | ไม่ได้เปรียบเทียกับโครงกระดูกของชาวมอญ เขมร พม่าและลาว หลักฐานไม่เพียงพอ |
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
ศจ.ชิน อยู่ดี หนังสือ:สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย | มีการขุดค้นร่องรอยของมนุษย์ตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย โครงกระดูก 180,000 ปี เครื่องใช้ 700,000ปี | มนุษย์ที่อาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องนั้นไม่อาจระบุได้ว่าคือ ชนชาติใด หลักฐานไม่พอ |
ทฤษีคาบสมุทรมลายู | ||
เจ้าของแนวคิด | แนวคิด | การหักล้าง |
รูธ เบเนดิกต์ | ชาวไทยเป็นคนเชื่อสายมลายู มีคำพ้องเสียงกับภาษาฟิลิปปินส์ แมว-แม่ว กู-อากู ตาย-ปะตาย | หลักฐานผิดหลักภาษาที่เอาความคล้ายคลึงมาอ้าง |
นายแพทย์ สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ | ความถี่ของหมู่เลือดจากการสุ่มเหมือนชาวอินโดนีเซียและมลายู มากกว่าจีน | หมู่เลือดไม่เกี่ยว ฟันและขากรรไกรเหมือนชาวจีน แต่มลายูเหมือนเขมร |
ศจ.นายแพทย์ ประเวศ วะสี | เฮโมโกลบินEพบมากในคนบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ชาวจีนไม่ค่อยมี | เฮโมโกลบินEสูงเพราะบริเวณนั้นมีโรคมาลาเรียชุกชุม ไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติเลย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น