เงินเฟ้อ
Inflation
เงินเฟ้อ
คือ อะไร
• ภาวะที่ระดับราคาสินค้าสูงขึ้นเรื่อยๆ (Rising Prices)
• การที่สินค้ามีระดับราคาสูง (High Prices) ไม่ถือว่าเป็นเงินเฟ้อ จำเป็นต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงจะเป็นเงินเฟ้อ
ประเภทของเงินเฟ้อ
1. เงินเฟ้ออย่างอ่อน คือ
อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นไม่เกินร้อยละ 5
ซึ่งถือว่าเป็นภาวะปกติและไม่มีผลเสียหายต่อภาวะเศรษฐกิจ
ทำให้มีการกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจทางด้านการลงทุน การผลิต การจ้างงาน
และรายได้ประชาชาติ
2. เงินเฟ้อปานกลาง คือ
อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเกินร้อยละ 5 ~ 20 %
รัฐบาลจะยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไขโดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง
3. เงินเฟ้ออย่างรุนแรง คือ
การที่ระดับราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นไปอย่างกว้างขวาง
โดยระดับราคาจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 20 % ต่อปี
ทำให้อำนาจการซื้อของเงินลดลงอย่างรวดเร็วมาก
เช่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 ในเยอรมัน จีนและประเทศไทย
ได้พิมพ์ธนบัตรออกใช้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด จึงเกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง
สาเหตุที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ
1. เงินเฟ้อที่เกิดจากอุปสงค์มวลรวมเพิ่มขึ้น
(Demand
Pull Inflation)
คือการปริมาณสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
ไม่เพียงพอตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นในอุปสงค์มวลรวม
2. เงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนสูงขึ้น (Cost-Push
Inflation)
สาเหตุที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
แบ่งออกเป็น 2 ประการคือ
2.1
การเรียกร้องค่าจ้างแรงงานเพิ่มของปัจจัยแรงงาน(Wage-Push Inflation)
2.2
เงินเฟ้อที่เกิดจากการเพิ่มกำไรของผู้ผลิต
3. เงินเฟ้อที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง(Structural
Inflation)
กรณีที่ประเทศเกิดภาวะสงคราม
ทำให้รัฐบาลต้องใช้จ่ายเงินในการสงครามและจำกัดขอบเขตการบริโภคของประชาชนทั่วไป
เพื่อนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้การผลิตอาวุธ ในช่วงสงคราม
ผลกระทบของเงินเฟ้อ
1. ผลต่อความต้องการถือเงิน
ภาวะเงินเฟ้อจะทำให้ค่าของเงินลดลง เพราะเมื่อราคาสินค้าแพงขึ้น
เงินเท่าเดิมจะซื้อของได้น้อยลง
2. ผลกระทบต่อรัฐบาล
รัฐบาลมักจะได้รับประโยชน์จากภาวะเงินเฟ้อ นั่นคือ
ภาวะเงินเฟ้อจะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่เป็นตัวเงินเพิ่มสูงขึ้น
ถ้ารัฐเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า ก็จะเก็บภาษีได้มากขึ้น มีรายได้มากขึ้น
ส่วนทางด้านรายจ่ายของรัฐนั้นถ้าเป็นจำนวนที่คงที่ เช่น เงินเดือน, บำนาญ, เงินสงเคราะห์ต่าง ๆ
รัฐก็จะได้ประโยชน์เพราะเงินนั้นมีค่าน้อยลง
3. ผลที่มีต่อการกระจายรายได้
1) ผู้มีรายได้เป็นจำนวนเงินคงที่ตายตัวหรือรายได้ประจำจะเสียเปรียบ
เพราะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะสูงขึ้น
2) ลูกหนี้จะได้เปรียบในขณะที่เจ้าหนี้
3) ผู้ถือทรัพย์สินที่เป็นตัวเงินแน่นอน
เช่น เงินสด เงินฝากประจำ หุ้นกู้ พันธบัตรจะเสียเปรียบ เพราะเงินลดค่าลง
เงินฝืด Deflation
ความหมาย
ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปลดลงเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องทำให้อำนาจซื้อของเงินเพิ่มขึ้น
ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมีน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความต้องการถือเงิน
รูปแบบของเงินฝืด
ภาวะเงินฝืดอย่างอ่อน
|
ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงไม่เกิน
5%ต่อปี
|
กระตุ้นการใช้จ่าย
เพิ่มอุปสงค์มวลรวม
เศรษฐกิจขยายตัว
|
ภาวะเงินฝืดปานกลาง
|
ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงเกิน
5%แต่ไม่ถึง20%ต่อปี
|
กำไรของผู้ผลิตลดลง
ลดกำลังการผลิต
รายได้ของประชาชนลด
เศรษฐกิจถดถอย
|
ภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรง
|
ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงเกินกว่า
20%ต่อปี
|
การผลิตหยุดชะงัก
คนว่างงาน
เศรษฐกิจตกต่ำ
|
ผลกระทบ
ผู้ประกอบการคาดคะเนว่าราคาสินค้าลด >>>การผลิตลด >>>ชะลอการลงทุน>>>จ้างงานลด >>>ว่างงานเพิ่ม >>>รายได้ประชาชนลด >>>เศรษฐกิจถดถอย/ซบเซา>>>เศรษฐกิจตกต่ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น